เมื่อพูดถึงหนอนแมลงวันกับร่างกายมนุษย์ สิ่งที่คนมักจะคิดถึงก็คือหนอนเข้าไปฝังตัวในรูหู รูจมูก กัดกินจนเนื้อเน่าหนองเยิ้ม ทว่าการแพทย์สมัยใหม่ได้นำหนอนแมลงวันมารักษาแผลเรื้อรังซึ่งช่วยให้หายไปในเวลาอันสั้น
การรักษาแผลเรื้อรังก่อนที่หนอนจะเข้ามาทำหน้าที่
แต่เดิมการรักษาแผลเรื้อรังต้องเริ่มจากการขูดเนื้อตายที่แผลซึ่งทำให้ผู้ป่วยเจ็บมาก เมื่อเนื้อตายออกหมดแล้วเนื้อดีก็จะขึ้นมาแทนที่โดยใช้เวลาในการรักษานานหลายสัปดาห์ ในบางครั้งเมื่อขูดเนื้อตายออกแล้วก็มีแนวโน้มว่าเนื้อตายจะเกิดขึ้นใหม่ได้
ผู้ป่วยที่ต้องใช้หนอน
ผู้ป่วยที่ต้องใช้หนอนบำบัดคือผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรัง กล่าวคือมีเนื้อตายเกิดขึ้น ดังนั้นการใช้หนอนแมลงวันบำบัดไม่อาจใช้ได้กับแผลสด หรือแผลพุพอง ผู้ป่วยที่ควรรักษาด้วยหนอน ได้แก่
1. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานมีน้ำตาลในเลือดสูง เมื่อเป็นแผลและติดเชื้อ น้ำตาลในเลือดเป็นอาหารอย่างดีให้กับเชื้อโรค เมื่อเม็ดเลือดขาวที่มีจำนวนน้อยกว่าเชื้อโรคตายจะเกิดเป็นหนองทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม
2. ผู้ป่วยอัมพาต การนอนบนที่นอนนานและไม่อาจพลิกตัวได้ ทำให้เกิดแผลกดทับ ซึ่งมีเนื้อตายเป็นจำนวนมาก และหายช้า
หนอนรักษาแผลได้อย่างไร
หนอนแมลงวันมีคุณสมบัติพิเศษ คือ มันเกิดมาเพื่อกินเนื้อตาย โดยมันจะกินเฉพาะเนื้อที่ตายแล้วและเว้นเนื้อส่วนที่ดีเอาไว้ หนอนแมลงวันจึงทำความสะอาดแผลได้อย่างหมดจด แถมใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
แต่ต้องระวังให้ดี เพราะไม่ใช่ว่าหนอนแมลงวันบ้านทั่วไปจะใช้ในทางการแพทย์ได้ หนอนที่ใช้ต้องเป็นหนอนแมลงวันสายพันธุ์ Lucilia sericata ซึ่งเพาะขึ้นในแล็บที่สะอาดปราศจากเชื้อโรค เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื้อจากหนอน อีกทั้งเอนไซม์ของหนอนจะไม่ถูกดูดซึมเข้าไปในแผล เพราะคุณลักษณะพิเศษของหนอนชนิดนี้จะดูดซึมเอนไซม์กลับเข้าไปในตัวหนอนเอง
ข้อดีของการใช้หนอน
1. ใช้เวลากำจัดเนื้อตายสั้น
2. ไม่เจ็บปวดทรมาน
3. ไม่ติดเชื้อเพิ่ม และไม่ได้รับอันตรายจากเอนไซม์ของหนอน
4. หนอนกินแต่เนื้อที่ตาย เมื่อกินเนื้อตายหมด หนอนก็จะคลานออกมาโดยไม่ทำร้ายเนื้อดี
ข้อเสียของการใช้หนอน
1. หากผู้ป่วยมีอาการแพ้หนอน จะไม่อาจใช้หนอนรักษาได้
2. หนอนน่าเกลียด ทำให้ผู้ป่วยบางคนไม่กล้าใช้หนอนในการรักษาแผล
เมื่อเทียบข้อดีและข้อเสียของการใช้หนอนรักษาแผลเรื้อรังแล้ว บอกได้คำเดียวว่าถ้าคุณไม่แพ้หนอน ใช้เถอะ แล้วจะติดใจ